เมล็ดกะหล่ำปลีม่วง จัดเป็นผักสวนครัวที่นิยมกินมากมายในตอนนี้ เนื่องจากว่า มีเนื้อกรอบ รวมทั้งหวาน สามารถเข้าครัวได้หลายรายการอาหาร เช่น แกงจืดหรือแกงจืดกะหล่ำปลี รวมทั้งผัดกะหล่ำปลี ฯลฯ นอกนั้น ยังเป็นที่ชื่นชอบกินสดหรือลวกสุกคู่กับอาหารรายการอาหารอื่น เช่น น้ำพริก ลาบ และก็ไส้กรอก ฯลฯ ในประเทศไทย มีการนำกะหล่ำเข้ามาปลูก แล้วก็รู้จักกันในราวก่อนปี พุทธศักราช 2470
บางส่วน โดยเริ่มต้นมีการปลูกเอาไว้ในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วก็ปลูกมากมายเฉพาะในช่วงฤดูหนาว แม้กระนั้นถัดมาในราวปี พุทธศักราช 2505 ได้เริ่มปลูกกันในช่วงฤดูอื่นๆมากยิ่งขึ้นการปลูกผักในโรงเรือนสามารถควบคุมภาวะดินและก็อากาศข้างในให้มีความเหมาะสมกับพืชแต่ละประเภทได้ แม้กระนั้นในเรื่องที่ปลูกผักนอกโรงเรือนจำเป็นจะต้องเลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่มีลักษณะเหมาะสมกับภาวะดิน
โดยแยกตามลักษณะความชุ่มชื้น ถ้าลักษณะอากาศเป็นหลักที่ฝนตกชุก อากาศเปียกชื้น เมล็ดกะหล่ำปลีม่วง ควรที่จะทำการเลือกผักในกรุ๊ปดินที่มีความชุ่มชื้นสูงมาปลูก ยกตัวอย่างเช่น ผักบุ้ง คะน้า หอมแดง ฯลฯ แต่ว่าแม้อยู่ข้างในพื้นที่อากาศร้อน แดดแรงควรจะเลือกปลูกพืชเครือญาติผักกาด พื้นที่อากาศหนาวเย็นทั้งปี ควรที่จะเลือกปลูกผักเมืองหนาว ดังเช่น สลัด กะหล่ำ บล็อกวัวลี ฯลฯ
แต่ว่าดังนี้การปลูกพืชที่เหมาะสมกับภาวะดินและก็สภาพอากาศควรจะมีการทดสอบปลูกพืชหลายสายพันธุ์ในรอบๆใกล้เคียงกัน แล้วตรวจดูมองความเจริญงอกงามของพันธุ์ไม้เพื่อพินิจว่าเมล็ดพันธุ์ผักประเภทใดจะเหมาะสมกับภาวะดินและก็สภาพอากาศรอบๆนั้นสูงที่สุดจ้ะ กะหล่ำปลี เป็นไม้ล้มลุกที่ใช้ปลูกเป็นผักสำหรับบริโภคมานานนับศตวรรษ เป็นพืชที่ถูกใจอากาศเย็นและก็แดดจ้า
แต่ว่าตอนนี้ได้มีการแก้ไขสายพันธุ์จนถึงสามารถปลูกได้ในทุกๆลักษณะของอากาศ ต้นกะหล่ำปลีจะมีลักษณะเป็นใบกลมสีเขียวอ่อนที่เรียงทับกันจนกระทั่งเป็นหัวกลม ซึ่งส่วนใบนี้สามารถกินสดได้เลย แล้วก็ในหลายประเทศได้นำกะหล่ำปลีไปใช้ปรุงอาหารหลายประเภทจะเรียกเมล็ดพันธุ์นั้นว่า เมล็ดพันธุ์ F2 และก็เมล็ดพันธุ์รุ่นต่อจากเมล็ดพันธุ์ F2 จะเรียกว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ F3 F4 ไปเรื่อย
เมล็ดกะหล่ำปลีม่วง เลือกเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวสำหรับใช้ทานในครอบครัว
การปลูกผักสวนครัวเพื่อบริโภคในครอบครัวจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ผักหลายประเภท เมล็ดกะหล่ำปลีม่วง ใช้ระบบการเพาะปลูกแบบแปลงรวมด้านในพื้นที่จำกัด เนื่องจากว่าการบริโภคผักในครอบครัวอยากได้ความมากมายหลายของสายพันธุ์ผักในจำนวนการปลูกที่ไม่มากเกินความจำเป็น โดยไตร่ตรองจากความถี่ และก็ปริมาณความจำเป็นบริโภคจ้ะ
รากทารกจะเติบโตลงสู่ที่ไม่มีแสงสว่าง รวมทั้งภายหลังจากแรกทารกดูดน้ำ ออกสิเจน และก็สารอาหารเข้าไป ทำให้ต้นทารกดันตัวออกมาจากเม็ดและก็มุ่งหน้าไปทางตรงผ่านกับรากทารก เป็นจะมุ่งสู่ที่ที่มีแสงสว่าง และก็ส่วนในที่สุดที่อยู่ในเม็ดจะโผล่ออกมานั้นเป็นใบเลี้ยง เมล็ดพันธุ์ OP เป็นเมล็ดพันธุ์ตามธรรมชาติ เป็นเมล็ดพันธุ์ท้องถิ่น
สามารถปลูกแล้วก็บเมล็ดพันธุ์มาปลูกซ้ำได้ไม่สิ้นสุด ส่วน เมล็ดพันธุ์ F1 เป็นเมล็ดพันธุ์ผสม เป็นเอาสายพันธุ์ต่างๆมากยิ่งกว่า 1 สายพันธุ์มาผสมกัน เพื่อได้สายพันธุ์ใหม่ที่คุณลักษณะที่ดี หรือมีการทนกับโรคพืช โดยเมื่อปลูกแล้วไม่เสนอแนะให้เก็บเมล็ดพันธุ์มาปลูกต่อ เพราะว่ารุ่นถัดไปจะมิได้คุณลักษณะราวรุ่นที่ปลูกหนแรก โดยเมล็ดพันธุ์ที่เก็บได้จากการปลูกเมล็ดพันธุ์แบบ F1
แหล่งปลูกที่สมควร
สามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกจำพวก แต่ว่าจะได้ผลผลิตสูงในดินที่มีภาวะร่วนผสมทรายระบายน้ำก้าวหน้าความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) อยู่ในตอน 6.0 – 6.8 (ศึกษาเล่าเรียนการปรับค่า pH ตรงนี้)อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเติบโต 22 – 25 องศาเซลเซียส ควรจะโดนแสงแดดตลอดวัน เม็ดจำพวกนี้จะผ่านการลดความชุ่มชื้น รวมทั้งชำระล้างมาแล้ว
ในบางครั้งเม็ดแบบงี้จะมีการคลุกสารเพื่อช่วยทำให้มีแรงต้านทานต่อเชื้อโรคในช่วงแรกของการงอกฯลฯกล้า ถ้าหากเลือกใช้เม็ดอย่างงี้ก็ควรจะถามคนขายว่ามีการคลุกสารคุ้มครองป้องกันเชื้อโรคมาให้ด้วยไหม ถ้าเกิดมี ภายหลังที่พวกเราเพาะเม็ดเสร็จและก็ควรจะล้างมือให้สะอาด เม็ดชนิดนี้อายุรักษาจะเป็นเวลานานกว่าเม็ดแบบฉาบ แต่ว่าเปอร์เซ็นต์ความงอกของเม็ดจะเบาๆน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
เมล็ดพันธุ์ผักรับประทานใบ มักเป็นกรุ๊ปพืชที่อยากการเพาะปลูกแบบแปลงยาว ต้องมีการเตรียมดินกระพรวนดินถอนต้นหญ้าและก็ชูแปลงก่อนเพาะปลูกเสมอ ผักรับประทานใบจะแก่การเพาะปลูกสั้นต้องปลูกใหม่ซ้ำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรต้องปลูกพืชแบบสลับแปลงหมุนวน ไม่สมควรปลูกพืชประเภทเดียวบนแปลงเพาะปลูกแบบบ่อยๆเพราะว่าจะก่อให้ธาตุอาหารในดินน้อยลงทำให้ผลิตผลไม่สมบูรณ์สักเท่าไหร่จ้ะ
สมเด็จพระน้องธิราชเจ้า กรมพระยาพระเทวดารัตนราชบุตรสาวฯ ไทยบรมราชธิดา ได้พระราชทานพระเจ้าแผ่นดินนุมัติเตียนให้ที่ทำการมูลนิธิชัยปรับปรุง โดยศูนย์ปรับปรุงพืชพันธุ์จักรพันธ์เพ็ญศรี ร่วมกับบริษัท อีสต์ เวสท์ ซีดเซียว จำกัด ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มีชื่อเสียง ในชื่อ “เมล็ดพันธุ์ยี่ห้อศรแดง” ร่วมดำเนินการสำหรับในการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช และก็ขยายเมล็ดพันธุ์ เพื่อขายให้กับเกษตรกรรวมทั้งราษฎรทั่วๆไป
ซึ่งจะมีผลให้เกษตรกรแล้วก็พสกนิกรทั่วๆไป สามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้ในราคาที่ถูก สมควร อย่างทั่วถึงและก็พอเพียง ตอบสนองต่อแผนการที่สำคัญของมูลนิธิชัยปรับปรุง ที่มุ่งอนุเคราะห์ช่วยเหลือพลเมืองให้มีความสุขสบายสุขสบายแล้วก็สุขสบาย อันจะทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนของประเทศ
ตรวจดูสายพันธ์ุว่าเป็น OP หรือ F1
ไม่ว่าจะปลูกพืชเพื่อจัดจำหน่ายหรือเพื่อทานในครอบครัว คุณควรจะสำรวจเสมอว่าเมล็ดพันธุ์ผักดังที่กล่าวผ่านมาแล้วเป็นแบบ OP (Open Pollinated Variety) หรือ F1 (Hybrid variety) ซึ่ง OPเป็นสายพันธุ์พืชทั่วๆไป สามารถผสมเกสรได้อย่างอิสระ สามารถเก็บเม็ดเพื่อใช้แพร่พันธุ์ต่อได้ ส่วน F1 เป็นพืชที่ผ่านการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขกรรมพันธุ์
โดยจะคัดเลือกเอาเฉพาะจุดแข็งของพืชไว้ พืชก็เลยแข็งแรง ได้ผลผลิตมากมาย แต่ว่าในเวลาเดียวกันพืชกลุ่มนี้จะเป็นหมัน สำหรับเพื่อการปลูกคราวต่อไปก็จะต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ใหม่จ้ะ จัดแจงแปลงเพาะกล้าโดยจัดเตรียมดินอย่างรอบคอบพอเหมาะพอควร ผสมผสมกับปุ๋ยมูลสัตว์หรือปุ๋ยธรรมชาติ ให้เข้าถูกกันจนกระทั่งทั่วนำเม็ดมาหว่าน
กระจัดกระจายให้ทั่วกลบด้วยดินร่วนซุยดกโดยประมาณ 1 เซนติเมตร ปกคลุมด้วยฟางเราหรือเศษต้นหญ้าบางๆรดน้ำให้เปียกชื้น อายุ 25 – 30 วัน มีใบจริง 2-3 ใบ ให้ย้ายลงแปลงปลูกหรือกระถางถ้าเกิดเป็นแปลงปลูกควรจะยกสูง 15 – 20 เซนติเมตร คุ้มครองปกป้องน้ำนองเฉอะแฉะ ระยะปลูก ควรจะห่างกันโดยประมาณ 50 เซนติเมตร รักษาเป็นประจำ ภายหลังย้ายปลูก 40 – 60 วัน ก็สามารถเก็บผลิตผลได้
เมล็ดพันธุ์ผักรับประทานผล ไม่มีความจำเป็นที่ต้องดูแลมากสักเท่าไรนัก เพราะว่าเป็นพืชที่ไม่ได้อยากต้องการความชุ่มชื้นสูง อายุการเพาะปลูกนาน สามารถขุดหลุมเพาะปลูกโดยกระพรวนดินผสมแกลบดำเพื่อดินปลูกร่วน เมล็ดกะหล่ำปลีม่วง ผักบางประเภทควรมีไม้ค้ำหรือไม้ราวให้ต้นผักยึดเกาะได้ รวมทั้งควรจะหมั่นถางต้นหญ้ารอบโคนต้นผักในรัศมี 1 ฟุต เมื่อต้นผักโตควรจะใช้ปุ๋ยมูลสัตว์หรือฟางแห้งหุ้มรอบๆหลุมปลูก เพราะเหตุว่าผักจะซึมซับธาตุอาหารได้ดิบได้ดีจ้ะ
เม็ดแบบฉาบ
มี 2 ลักษณะเป็นเม็ดฉาบแป้ง พวกเราเรียก Pelleted seed เก็บได้นาน 1-3 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเม็ดพืชดอก และก็เม็ดแบบฉาบ จะเรียกว่า Primed seed ซึ่งเม็ดจะถูกทำให้เกิดการงอกก่อน แล้วจากนั้นจึงค่อยนำมาทำฉาบแป้ง (Pelleted seed) อีกครั้ง ซึ่งจากการที่กระตุ้นให้เม็ดแตกออกก่อน ทำให้เมล็ดพันธุ์อย่างงี้แก่การรักษาสั้น ซึ่งถ้าหากเลือกซื้อมาใช้ควรที่จะใช้ให้หมดโดยด่วน
ไม่สมควรเก็บไว้นานกว่าไป สำหรับจุดเด่นของการใช้เม็ดแบบฉาบก็คือ สบายสำหรับเพื่อการเพาะอัตราการงอกเป็นประจำ และก็ % ความงอกสูง แต่ว่าราคาก็จะสูงยิ่งกว่าเม็ดแบบไม่ฉาบ สำหรับเมล็ดพันธุ์ควบคุมนี้ “ตามพ.ร.บ.พืชพันธุ์ พุทธศักราช 2518 เมล็ดพันธุ์พืชควบคุม คือ เมล็ดพันธุ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นเมล็ดพันธุ์ควบคุม” กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป็นเมล็ดพันธุ์ผักที่มีการดูแล ควบคุมทั้งยังอัตราการงอกและก็ความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์นั้นๆ
เมื่อเกษตรกรนำไปปลูกแล้วจึงมั่นอกมั่นใจได้ว่าเมล็ดพันธุ์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมีอัตราการงอกสูง เป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ โดยในเดี๋ยวนี้มีเมล็ดพันธุ์ควบคุมถึง 37 ประเภท เป็นผัก 28 ประเภท รวมทั้งพืชไร่อีก 9 ประเภท ซึ่งเมล็ดพันธุ์บางประเภทมีการนำเข้าจากต่างแดนก็เลยจะต้องมีประเด็นการควบคุมประสิทธิภาพ เพื่อคนซื้อได้ “ผลิตภัณฑ์ตรงปก” นั่นเองจ้ะ
จัดเตรียมดินให้ปุ๋ยคอกตารางเมตรละ 2 กก. คลุกจนเข้ากัน หว่านเม็ด ลงในแปลง ให้มีระยะห่างพอเหมาะพอควร ปกคลุมด้วยฟางข้าวหรือ เศษต้นหญ้าแห้งบางๆและก็รดน้ำเป็นฝอยละเอียดให้ทั่วแปลง เมื่อผักมีใบ 2-3 ใบ ให้แยกรอบๆที่หนาแน่น นำไปปลูกให้มี ระยะห่าง ระหว่างต้น 15 – 20 ซม. เมื่อแก่ 30 – 45 วัน สามารถเก็บผลิตผลได้
เมล็ดพันธุ์ที่จะทำงานผลิตนี้ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่กรมพระยาพระเทวดาฯ ทรงพระราชทานนาม ให้ แล้วก็ให้มูลนิธิชัยปรับปรุงปฏิบัติการขึ้นบัญชีพืชพันธุ์ โดยเมล็ดพันธุ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เกิดขึ้นจากการพัฒนาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้และก็มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ร่วมกับศูนย์ปรับปรุงพืชพันธุ์จักรพันธ์เพ็ญศรี มูลนิธิชัยปรับปรุง
เพื่อพระราชทานแก่เกษตรกร แต่ว่าด้วยความอยากเมล็ดพันธุ์ที่มากขึ้น ทำให้ไม่สามารถที่จะกระจัดกระจายเมล็ดพันธุ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วสู่เกษตรกรอย่างทั่วถึง นำไปสู่ต้นเหตุของการร่วมแรง “แผนการความร่วมแรงร่วมมือสำหรับในการผลิตแล้วก็ขายเมล็ดพันธุ์” ระหว่างมูลนิธิชัยปรับปรุง รวมทั้ง บริษัท อีสต์ เวสท์ ซีดเผือด จำกัดคุ้มครองป้องกันน้ำนองเฉอะแฉะ ระยะปลูก ควรจะห่างกันโดยประมาณ 50 เซนติเมตรดูแลอย่างสม่ำเสมอ อายุ 70-80 วัน เริ่มเก็บผลิตผลได้
ตระเตรียมแปลงเพาะกล้าโดยจัดเตรียมดินอย่างระมัดระวังพอเหมาะพอควร ผสมเคล้ากับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยธรรมชาติ ให้ถูกกันจนถึงทั่วนำเม็ดมาหว่านกระจัดกระจายให้ทั่วกลบด้วยดินร่วนซุยครึ้มโดยประมาณ 1 เซนติเมตร ดูหนังออนไลน์ฟรี 2023 ปกคลุมด้วยฟางเราหรือเศษต้นหญ้าบางๆรดน้ำให้สดชื่น อายุด 25 – 30 วัน มีใบจริง 2 – 3 ใบ ให้ย้ายลงแปลงปลูกหรือกระถางถ้าเกิดเป็นแปลงปลูกควรจะยกสูง 15- 20 เซนติเมตร